กรองแอร์รถยนต์ ดีต่อรถ ดีต่อใจ By Runstop

กรองแอร์รถยนต์ เปรียบเสมือนด่านแรกที่ปกป้องห้องโดยสารของคุณจากมลพิษทางอากาศ หน้าที่หลักของมันคือ กรองฝุ่นละออง สิ่งสกปรก และ PM 2.5 ที่ปะปนมากับอากาศ ช่วยให้แอร์เย็นฉ่ำ ป้องกันแผงคอยล์เย็นอุดตัน ส่งผลดีต่อทั้งสุขภาพของผู้โดยสารและยืดอายุการใช้งานของระบบปรับอากาศในรถ
สัญญาณเตือนว่าถึงเวลาเปลี่ยนกรองแอร์มีอะไรบ้าง ?
1.) แอร์ไม่เย็นฉ่ำเหมือนเดิม แม้จะเปิดแอร์แรงสุดแล้ว แต่ภายในห้องโดยสารก็ยังไม่เย็นสบาย รู้สึกอึดอัด
2.) ลมแอร์อ่อนลง ลมแอร์ที่พัดออกมาจากช่องแอร์มีกำลังอ่อน แรงลมไม่สม่ำเสมอ
3.) มีกลิ่นอับในห้องโดยสาร เกิดกลิ่นอับชื้น กลิ่นเหม็น หรือกลิ่นเปรี้ยวในห้องโดยสาร แม้จะปิดแอร์แล้วก็ยังได้กลิ่น
เมื่อไหร่? ถึงระยะเวลาเปลี่ยนกรองแอร์ !?
📌 กรณีทั่วไป แนะนำให้เปลี่ยนกรองแอร์ทุก 10,000 – 20,000 กิโลเมตร หรือทุก 6 เดือน – 1 ปี ขึ้นอยู่กับสภาพการใช้งาน
📌 ช่วงฝุ่น PM 2.5 ควรตรวจสอบกรองแอร์บ่อยขึ้น และเปลี่ยนใหม่ทันทีหากพบว่าสกปรก หรือเสื่อมสภาพ
📌 กรณีใช้งานรถในเขตเมืองที่มีมลพิษทางอากาศสูง แนะนำให้เปลี่ยนกรองแอร์ทุก 5,000 – 10,000 กิโลเมตร
ข้อดีของการเปลี่ยนกรองแอร์ 😁
1.) แอร์เย็นฉ่ำ ช่วยให้แอร์เย็นเร็ว เย็นสบายทั่วถึงทั้งห้องโดยสาร
2.) ประหยัดน้ำมัน แอร์ทำงานมีประสิทธิภาพ ลดภาระการทำงานของเครื่องยนต์ ส่งผลต่ออัตราสิ้นเปลืองน้ำมัน
3.) ยืดอายุการใช้งานของแอร์ ป้องกันแผงคอยล์เย็นอุดตัน ลดความเสี่ยงในการเกิดปัญหาแอร์เสีย ช่วยยืดอายุการใช้งานของระบบปรับอากาศ
4.) รักษาสุขภาพผู้โดยสาร กรองฝุ่นละออง สิ่งสกปรก และ PM 2.5 ช่วยให้ผู้โดยสารหายใจสะดวก ป้องกันโรคภูมิแพ้ และโรคระบบทางเดินหายใจ
การดูแลรักษารถยนต์อย่างสม่ำเสมอ เปรียบเสมือนการลงทุนเพื่อสุขภาพที่ดี เปลี่ยนกรองแอร์รถยนต์เป็นประจำ ช่วยให้แอร์เย็นฉ่ำ ประหยัดน้ำมัน ยืดอายุการใช้งานของแอร์ และที่สำคัญคือ ปกป้องสุขภาพของคุณและคนที่คุณรัก

สอบถามเพิ่มเติม
☎️ Office 02-2246580-2 (08.30 – 17.30)
094-9265211 (ตุ๊ก).
📌Line official account manager
@runstop
📌Facebook
Runstop Racing